ขนมไข่นกกระทา Sweet Potato Ball
ขนมไข่นกกระทา Sweet Potato Ball หากเพื่อนๆ กำลังมองหาสูตรขนมไข่นกกระทาแสนอร่อย แอดส้มฉุนว่าโป๊ะเช๊ะเลยค่ะ สูตรนี้คือสูตรของเพื่อนๆ ถูกต้องนะค้าบแอดส้มฉุนนำเสนอเมนูขนมไข่นกกระทา ขนมไข่นกกระทา กรอบอร่อยกรอบนอกนุ่มใน หอมมันหวาน วันนี้มาทั้งสองชนิดทั้งมันหวาน มันม่วง กรอบนอกหนึบใน ไม่ยุบ ไม่เหี่ยว เด็ดที่สุดเลยค่ะ นึกดูสิที่รักอาหารเรียกน้ำย่อยสไตล์ไทย ซึ่งแอดส้มฉุนลองทำมาแล้วอร่อยมากๆเลยค่ะ อยากแชร์สูตรเลย ของอร่อยอย่างนี้ต้องห้ามพลาด บรรยายความน่ากินมามากโข มาทำขนมไข่นกกระทากันค่ะ อร่อยเด็ดทำให้คนชม มาค่ะดาวน์โหลดสูตร มือขวาควงตะหลิว มือซ้ายจับกระทะ สาวเท้าก้าวเข้าครัวไปกับเมนูขนมไข่นกกระทากันเลยค่ะ
สูตรขนมไข่นกกระทาสูตรโบราณ |
– สำหรับส่วนมันม่วง |
มันม่วง 500 กรัม |
แป้งมัน 180 กรัม |
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 70 กรัม |
น้ำตาล 170 กรัม |
ผงฟู 1 ข้อนชา |
เกลือ 1 ข้อนชา |
กะทิ 70 กรัม |
– สำหรับส่วนมันเหลือง |
มันเหลือง / มันไข่ 500 กรัม |
แป้งมัน 180 กรัม |
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 70 กรัม |
น้ำตาล 170 กรัม |
ผงฟู 1 ข้อนชา |
เกลือ 1 ข้อนชา |
กะทิ 70 กรัม |
วิธีทำขนมไข่นกกระทาสูตรโบราณ |
ชั่งตวงวัด ส่วนผสมเครื่องปรุงต่างๆ ให้เรียบร้อยสูตรจะได้ไม่คลาดเคลื่อนนะคะ |
นำมันไปต้มหนือนึ่งให้สุก ใช้ที่บี้ยีให้เละ เป็นเนื้อเนียนละเอียด |
ในอ่างผสม ให้ใส่แป้งสาลีอเนกประสงค์ แป้งมัน น้ำตาลทราย ผงฟู เกลือ นวดเข้าด้วยกัน |
ค่อยๆ หยอดกะทิลงในแป้ง จนหมดที่ตวงไว้ นวดให้เหนียวจนกรัทั่งปั้นได้ แรปพลาสติกพักไว้ |
ทำขั้นตอนข้างต้น เหมือนกันอีกครั่งกับมันเหลือง ให้ได้แป้งมันเหลือง |
เริ่มปั้น โดยการปั้นเป็นลูกกลมๆ เส้นผ่านศูนย์กลาง 1 นิ้ว จนหมดแป้งที่นวดไว้ |
– วิธีทอด |
ตั้งกระทะน้ำมันท่วม ใช้ไฟกลางพอน้ำมันร้อน ใส่ขนมไข่นกกระทาลงไป |
รอจนกระทั่งตัวขนมลอยขึ้นมาถึงจะเริ่มคน ให้สุกโดยทั่วกันและไม่ติดกัน |
พยายามกดตัวขนมลงในกระทะ สังเกตฟองจะเป็นฟองเล็กลง เหลืองทอง ตักขึ้นมาสะเด็ดน้ำมัน |
พักให้คลายความร้อน จะได้ขนมไข่นกกระทา สองสีทั้งมันม่วง และมันเหลือง กรอบนอกหนึบใน แสนอร่อยแล้วค่ะ ทานให้อร่อยนะคะ |
ขอขอบคุณข้อมูล – คุณ อร่อยพุง จาก https://www.youtube.com/watch?v=FgUgW72jAO4
กดติดตามคุณอร่อยพุง ได้ที่ปุ่มนี้เลยจ้า เมนูเด็ดรอเพื่อนๆอยู่
วัตถุดิบขนมไข่นกกระทาสูตรโบราณ |
sugar |
น้ำตาล (Sugar) คือ สารประกอบคาร์โบไฮเดรตประเภทโมโนแซ็กคาไรด์ (monosaccharide) และไดแซ็กคาไรด์ (disaccharide) ซึ่งมีรสหวาน โดยทั่วไปจะได้มากจากอ้อย มะพร้าว แต่โดยทั่วไปแล้วจะเรียกอาหารที่มีรสหวานว่าน้ำตาลแทบทั้งสิ้น เช่น ทำมาจากตาลจะเรียกว่าตาลโตนด ทำมาจากมะพร้าวจะเรียกว่าน้ำตาลมะพร้าว ทำมาจากงวงจากจะเรียกว่าน้ำตาลจาก ทำมาจากงบจะเรียกว่าน้ำตาลงบ ทำมาจากอ้อยแต่ยังไม่ได้ทำเป็นน้ำตาลทรายจะเรียกว่าน้ำตาลทรายดิบ ถ้านำมาทำเป็นเม็ดจะเรียกว่าน้ำตาลทราย หรือถ้านำมาทำเป็นก้อนแข็งคล้ายกรวดจะเรียกว่าน้ำตาลกรวด ฯลฯ |
baking powder |
เบคกิ้งพาวเดอร์ หรือ ผงฟู เป็นส่วนผสมแห้งของสารเคมีคือ เบคกิ้งโซดา+กรดอ่อนๆ + แป้ง เป็นตัวที่ทำให้ขนมของเรานั้นฟูขึ้นเช่นกัน เราจะเห็นว่าในส่วนผสมของผงฟูนั้นมีกรดอ่อนๆ ผสมอยู่แล้วเมื่อเติมน้ำลงไป กรดอ่อนและด่างอ่อนๆ จากเบคกิ้งโซดาก็จะทำปฏิกริยาเกิดฟองแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ขึ้นมา ด้วยความที่มีกรดเป็นส่วนผสมอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องอาศัยกรดจากวัตถุดิบอื่นๆ ของอาหาร ขนมปังที่ทำมาจากส่วนผสมของสารเคมีแบบแห้งว่า Quick bread ยกตัวอย่างเช่น แพนเค้ก มัฟฟิน หรือบิสกิต เป็นต้น |
salt |
เกลือ (Salt) หรือเกลือโซเดียมนั้นมีแร่ธาตุหลายชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย หากรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมก็อาจส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกาย ดังนี้ ป้องกันภาวะความดันโลหิตต่ำ,ป้องกันภาวะขาดน้ำ และป้องกันการขาดไอโอดีน แต่ต้องรับประทานในขนาดที่เหมาะสมต่อวันมิเช่นนั้นจะเดิดโทษต่อร่างกาย มากกว่าได้ประโยชน์ |
milk |
นม หรือ น้ำนม (Milk) คือ ของเหลวสีขาวที่มีสารอาหารที่จำเป็นสำหรับเด็กหรือสัตว์เกิดใหม่ ที่ผลิตออกมาจากเต้านมของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม อาทิเช่น มนุษย์ วัว แพะ แกะ ควาย ม้า ลา อูฐ จามรี เรีนเดียร์ ลามา แมวน้ำ และยังรวมไปถึงเครื่องดื่มที่ใช้แทนนมด้วย เช่น นมถั่วเหลือง น้ำนมข้าว นมข้าวโพด นมแอลมอนด์เป็นต้น |
แอดมินสูตรโบราณ พยายามคัดสรรค์สูตรอาหารไทยแท้ดั้งเดิมที่สืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบัน สูตรที่นำมาลงนี้ทางแอดมินตรวจสอบแล้วและตามมาตรฐานของทีมงานคิดว่าอร่อยทุกสูตร แต่ก็ขอให้ท่านผู้อ่านระลึกไว้ว่า รสชาติอาหารนั้นเป็นปัจจัตตัง อยู่ที่รสนิยมเฉพาะบุคคลหากท่านไม่พึงพอใจ ทางทีมงานขออภัยล่วงหน้า และอยากให้ท่านปรับสูตรได้ตามรสนิยมเพื่อสืบสานอาหารไทยต่อไป
Post Views:
366